Categories
Uncategorized

ร้านเคียงทะเล

ร้านเคียงทะเล

“เติมความสุขให้เต็มอิ่มริมหาดลำปำ
กับอาหารฟิวชั่นรสชาติเยี่ยมที่ร้านเคียงทะเล”

    ชวนมาอิ่มอร่อยกับเมนูอาหารพื้นถิ่นฟิวชั่นริมหาดลำปำ ณ ร้านเคียงทะเล ร้านที่คัดสรรวัตถุดิบท้องถิ่นคุณภาพเยี่ยมสดใหม่จากทะเลสาบสงขลาไม่ว่าจะเป็นกุ้ง หอย ปู ปลา สร้างสรรค์กลายเป็นอาหารรสอร่อยสุดแปลกใหม่ที่ผสมผสานระหว่างรสชาติดั้งเดิมและรสชาติสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว โดยมีเมนูขึ้นชื่อต้นตำรับอย่าง “กุ้งสามน้ำ ลำปำ” กุ้งก้ามกรามเนื้อแน่นหวานและหอมมันอร่อยเป็นพิเศษที่หาไม่ได้จากที่อื่น ซึ่งมีให้เลือกรับประทานหลากหลายรูปแบบทั้งราดซอสไข่เค็ม นึ่งนมสด และอบเกลือ หรือจะลองลิ้มรสกุ้งสามน้ำต้มยำโบราณก็อร่อยไม่แพ้กัน อีกทั้งยังมีอีกหลายเมนูน่าลองอย่างน้ำชุบพริกพร้อมผักเคียงพื้นบ้าน แกงส้มปลากะพงรากบัว ตำไหลบัวเสาวรส ยำหัวปลีอ่อนกุ้งสด และหมึกไข่ผัดซอสโหระพา 

    นอกจากได้รับประทานเมนูสุดอร่อยแล้ว ยังได้รับบรรยากาศสุดชิลริมทะเลสาบลำปำ เรียกได้ว่าถ้ามาเที่ยวหาดลำปำ ก็พลาดไม่ได้ที่จะแวะเติมความสุขให้เต็มอิ่ม ณ ร้านเคียงทะเล    

ค่าใช้จ่าย
: ค่าอาหาร 100 – 500 บาท
ข้อมูลการเดินทาง
รถยนต์ : จากพัทลุงที่ถนนสี่แยกเอเชียตรงเข้าถนนราเมศวร์ จนข้ามทางรถไฟ ตรงต่อมายังถนนอภัยบริรักษ์ จนถึงบริเวณหาดแสนสุขลำปำ เจอป้ายบอกทางร้านอาหารริมหาดแสนสุขลำปำแล้วเลี้ยวซ้าย จากนั้นตรงมาอีก 200 เมตรก็จะถึงร้านเคียงทะเล
วันเปิดทำการ : ทุกวัน เวลา : 11.00 น. – 20.00 น.
ที่ตั้ง : เลขที่ 59 ถนนหน้าค่ายลูกเสือ ตำบลลำปำ อำเภอเมืองพัทลุง จังหวัดพัทลุง
เฟซบุ๊ก : www.facebook.com/kiengtalay/
ทร : 088-752-9532

Categories
Uncategorized

เกาะหมาก

เกาะหมาก

“ชวนไปสัมผัสวิถีชีวิตชาวประมงและธรรมชาติอันล้ำค่า
ณ เกาะกลางทะเลสาบสงขลา”

    เกาะหมาก เกาะกลางทะเลสาบสงขลาที่ตั้งอยู่ในอำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง สถานที่ท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ที่สามารถชื่นชมความงามของเกาะเล็กใหญ่ในบริเวณใกล้เคียง อีกทั้งได้สัมผัสวิถีชีวิตอันผูกพันกับสายน้ำของชุมชนตำบลเกาะหมาก โดยมีคุณคิมหันต์ สุวรรณเรืองศรี ประธานกลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชน ผู้รวมพลังชาวเกาะหมากเพื่อสร้างสรรค์ให้เกิดการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ภายในพื้นที่แห่งนี้ขึ้น สำหรับนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวเกาะหมากจะได้ล่องเรือชมความงามของเกาะแก่งมากมายในทะเลสาบสงขลา สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ตื่นตาตื่นใจไปกับรังนกนางแอ่นภายในถ้ำ นอกจากนี้ยังได้สัมผัสวิถีประมงกลางทะเลสาบสงขลาอย่างใกล้ชิดพร้อมกับยกมื้ออร่อยมารับประทานกันถึงบนเรือ ความพิเศษของมื้อนี้อยู่ตรงที่ได้ชิมกุ้งก้ามกรามย่างที่รับประกันความสด เพราะได้เห็นตั้งแต่ขั้นตอนการจับกุ้งของชาวบ้านที่ยังคงใช้อุปกรณ์ดั้งเดิมอย่างไซ และนำมาย่างบนเตาถ่านที่จัดเตรียมไว้บนเรือ อีกทั้งยังอร่อยกับเมนูอาหารพื้นถิ่นจากชุมชนอีกมากมาย ถ้าไม่อยากพลาดความอร่อยท่ามกลางบรรยากาศแปลกใหม่ก็ติดต่อมาล่วงหน้าได้ที่กลุ่มท่องเที่ยวโดยชุมชนเกาะหมาก

ซึ่งนอกจากจะได้สนุกกับกิจกรรมล่องเรือแล้ว ยังได้ความเพลิดเพลินจากการเดินเที่ยวชมวิถีชีวิตในชุมชน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้การทำอุปกรณ์ดักจับปลาแบบดั้งเดิมและลิ้มลองอาหารพื้นเมือง หากใครอยากมาชื่นชมความงามของธรรมชาติท่ามกลางทะเลสาบสงขลา พร้อมสัมผัสความเป็นอยู่แบบชาวประมงที่ชาวบ้านยังคงอนุรักษ์รักษาไว้อย่างรู้ค่า ไม่ควรพลาดการมาเที่ยวที่เกาะหมาก

ค่าใช้จ่าย
ค่าเช่าเรือ : ติดต่อที่ท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลเกาะหมาก
ข้อมูลการเดินทาง 
รถยนต์จากท่าอากาศยานนานาชาติหาดใหญ่ ใช้เส้นทางถนนหมายเลข 4135 เลี้ยวซ้ายเข้าสู่ถนนหมายเลข 4 ตรงไปจนถึงป้ายบอกทางที่ว่าการอำเภอปากพะยูน และขับตรงไปจนถึงทางข้ามสะพานไปยังเกาะหมาก
ข้อมูลการติดต่อ วันเปิดทำการ : ทุกวัน เวลา : 08.00-17.00 น. 
ที่ตั้ง : ตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง
เฟซบุ๊ก : www.facebook.com/ท่องเที่ยวโดยชุมชนตำบลเกาะหมาก

Categories
Uncategorized

ร้านวิวยอ

ร้านวิวยอ

“ลิ้มรสความอร่อยท่ามกลางบรรยากาศชวน
หลงใหลของวิวยอยักษ์ที่ร้านวิวยอ”

     เสิร์ฟความอร่อยท่ามกลางวิวยอยักษ์เบื้องหน้าแสงสวยงามสุดท้ายในยามเย็น ณ ร้านวิวยอ ร้านอาหารพื้นถิ่นที่ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสบรรยากาศสุดชิลริมคลองปากประ บริเวณร้านตั้งอยู่ภายใน                 ศรีปากประรีสอร์ท โดยตัวร้านมีทางเดินไม้ทอดยาวไปยังริมคลอง ตกแต่งด้วยโครงไม้คล้ายกับอุปกรณ์จับปลาขนาดใหญ่อย่างยอยักษ์ และประดับประดาไปด้วยโคมไฟที่ความสวยงามจนอดไม่ได้ที่จะถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก ร้านวิวยอแห่งนี้เสิร์ฟอาหารพื้นถิ่นรสเด็ดที่รับประกันความสดใหม่ของวัตถุดิบ โดยมีเมนูแนะนำอาทิเช่น แกงต้มกะทิสายบัวกุ้ง ปลาทอดกรอบราดน้ำยำสูตรพิเศษ แกงส้มปลากด ห่อหมกมะพร้าวอ่อน ยำศรีปากประ และปลาดุกร้าทรงเครื่อง เป็นต้น อาหารอร่อยเคล้ากับดนตรีสดสไตล์ชาวใต้ทำให้มื้ออาหารนี้พิเศษอย่าบอกใคร นอกจากนี้ยังมีร้านขายของฝากสำหรับซื้อหาของที่ระลึกติดไม้ติดมือกลับบ้าน หากอยากลิ้มลองความอร่อย ท่ามกลางบรรยากาศที่สวยงามจนน่าหลงใหลของวิวยอยักษ์ ต้องไม่พลาดร้านวิวยอ

ค่าใช้จ่าย : ค่าอาหาร  ประมาณ 100 – 500 บาท
ข้อมูลการเดินทาง                     
รถยนต์ : จากตัวเมืองพัทลุงใช้เส้นทางหลวง 4007 มุ่งหน้าไปทางทะเลน้อย ร้านวิวยอจะตั้งอยู่ภายในศรีปากประ รีสอร์ทบริเวณบ้านชายทะเล ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
วันเปิดทำการ : ทุกวัน  เวลา : 10.00 – 22.00 น                         
ที่ตั้ง : เลขที่ 222 บ้านชายเล ตำบลพนางตุง อำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุง
เฟซบุ๊ก : facebook.com/ViewYorRestaurant/   
โทร : 062-232-5201

Categories
Uncategorized

อุทยานแห่งชาติเขาปู่ เขาย่า

อุทยานแห่งชาติเขาปู่ เขาย่า

“เยือนเขาศักดิ์สิทธิ์สถิตดวงวิญญาณตาปู่
สัมผัสธรรมชาติกลางป่าพรหมจรรย์แห่งภาคใต้”

    สูดหายใจเข้าให้เต็มปอด ชวนไปสัมผัสอากาศบริสุทธิ์ใกล้ชิดธรรมชาติท่ามกลางผืนป่าภาคใต้ ณ อุทยานแห่งชาติเขาปู่ เขาย่า อุทยานแห่งชาติลำดับที่ 42 ของประเทศ หรือที่เรียกรู้จักกันในนาม ป่าพรหมจรรย์ ผืนป่าเนื้อที่กว่า 433,750 ไร่ ครอบคลุมพื้นที่ใน 3 จังหวัด ทั้งจังหวัดพัทลุง จังหวัดนครศรีธรรมราชและจังหวัดตรัง โดยตั้งอยู่บนเทือกเขาบรรทัดอันสลับซับซ้อนที่ปกคลุมไปด้วยป่าดิบชื้น มีอาณาเขตติดกับเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าเทือกเขาบรรทัดทำให้อุดมสมบูรณ์ไปด้วยสัตว์นานาชนิด ที่มาของชื่อเขาปู่ เขาย่านั้นมาจากชื่อภูเขาที่ชาวพัทลุงเชื่อว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งยังเป็นที่สิงสถิตของดวงวิญญาณตาปู่ ผู้เป็นเทพอันเป็นที่เคารพนับถือของคนในพื้นที่ อุทยานแห่งนี้มีสถานที่น่าเที่ยวหลายแห่งทำให้มีกิจกรรมหลายอย่างที่ไม่ควรพลาด ทั้งชมวิวป่าไม้บนยอดเขาสูงที่จุดชมวิวผาผึ้ง เล่นน้ำผ่อนคลายที่น้ำตกหลากหลายสาย เดินป่าศึกษาธรรมชาติพร้อมกับตื่นตาตื่นใจในความอลังการของถ้ำมัจฉาปลาวน และไม่ควรพลาดที่จะไปเยือนถ้ำรื่นเทพนิมิต สถานที่ที่ชาวบ้านเชื่อกันว่าเป็นภูเขาศักดิ์สิทธิ์สถิตดวงวิญญาณตาปู่ โดยมีอีกจุดเช็กอินที่ต้องไปคือ เขาหินแท่น ยอดเขาสูงสุดในจังหวัดพัทลุงที่สูงประมาณ 877 เมตรจากระดับน้ำทะเล สำหรับคนที่ติดใจกับบรรยากาศท่ามกลางธรรมชาติของอุทยานแห่งชาติเขาปู่ เขาย่าจนอยากสัมผัสอย่างเต็มอิ่มก็มีบ้านพักและจุดกางเต้นท์ให้บริการอีกด้วย 

ค่าใช้จ่าย
ค่าเข้าชม : ชาวไทยเด็ก 10 บาท, ผู้ใหญ่  20 บาท, ชาวต่างชาติเด็ก  50  บาท, ผู้ใหญ่ 100 บาท
ค่าที่พัก : 600 – 3,000 บาท
ข้อมูลการเดินทาง
รถยนต์

  • จากจังหวัดพัทลุงใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 41 (สายพัทลุง-นครศรีธรรมราช) ระยะทางประมาณ 20 กิโลเมตรถึงสี่แยกโพธิ์ทอง เลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงจังหวัดหมายเลข 4164 (ถนนสายควนขนุน-เขาปู่) ไปประมาณ 17 กิโลเมตร จะเห็นป้ายอุทยานเลี้ยวซ้ายไปอีกประมาณ 4 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า
  • จากจังหวัดพัทลุงใช้ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 (สายพัทลุง-ตรัง) ระยะทาง 17 กิโลเมตรถึงบริเวณสามแยกควนดินสอ เลี้ยวขวาไปทางเขาปู่ประมาณ 27 กิโลเมตร จะถึงชุมชนเขาปู่ เลี้ยวขวาไปอีก 3 กิโลเมตร จะเห็นป้ายอุทยานฯ เลี้ยวขวาขึ้นไปประมาณ 4 กิโลเมตร ก็จะถึงบริเวณที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า

รถโดยสารประจำทาง

  • สถานีขนส่งสายใต้ใหม่ (สายกรุงเทพฯ–พัทลุง) หรือรถไฟลงที่ตัวจังหวัดพัทลุง หลังจากนั้นก็นั่งรถโดยสารสายพัทลุง-เขาปู่-เขื่อน มาลงที่ทำการอุทยานแห่งชาติเขาปู่-เขาย่า

วันเปิดทำการ : ทุกวัน
(ปิดช่วงวันที่ 15 พฤศจิกายนถึง 25 ธันวาคมของทุกปี หรือตรวจสอบกับทางอุทยานแห่งชาติ)
เวลาเปิดทำการ : 08.00 น. – 16.00 น.
ที่ตั้ง : 60 หมู่ที่ 9 ตำบลเขาปู่ อำเภอศรีบรรพต จังหวัดพัทลุง
โทร : 074-689-194, 093-578-9749, 074-619-674 ต่อ 5, 074-307-114

Categories
Uncategorized

หมู่เกาะสี่ เกาะห้า

หมู่เกาะสี่ เกาะห้า

“นั่งเรือชมความตระการตาบนหมู่เกาะ
ที่มีรังนกคุณภาพระดับโลก”

    หมู่เกาะสี่ เกาะห้า หมู่เกาะน้อยใหญ่กลางทะเลสาบสงขลา บนอาณาเขตของอำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง ที่มาของชื่อหมู่เกาะอันน่าสนใจนี้มาจากจำนวนเกาะที่มองเห็นต่างกันในแต่ละทิศ โดยเมื่อมองจากทางทิศเหนือหรือทิศใต้จะเห็นเพียง 4 เกาะ แต่ถ้าหากมองจากทางทิศตะวันตกจะเห็น 5 เกาะ จึงเรียกรวมกันว่า เกาะสี่เกาะห้า สถานที่แห่งนี้มีอีกชื่อเรียกคือ เกาะรังนก เนื่องจากมีถ้ำโพรงมากมายที่เป็นแหล่งอาศัยของนกนางแอ่นทะเลจำนวนมาก จึงเป็นแหล่งรังนกคุณภาพเยี่ยมที่ได้รับการกล่าวขานในระดับโลกนักท่องเที่ยวที่แวะมาที่หมู่เกาะแห่งนี้จะได้นั่งเรือชมความงามของภูเขาหินปูนอันอุดมสมบูรณ์ไปด้วยต้นไม้บนเกาะเล็กใหญ่ ทั้งเกาะท้ายถ้ำดำ เกาะร้านไก่ เกาะรูสิม เกาะหน้าเทวดา และเกาะอื่นๆอีกมากมาย นอกจากนี้ยังได้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งประดิษฐานอยู่บริเวณเกาะหน้าเทวดา ชมจารึกพระปรมาภิไธยย่อของรัชกาลที่ 5 บริเวณหน้าผาเบื้องหลัง

พร้อมกับฟังเรื่องราวย้อนรอยประวัติศาสตร์ครั้งที่พระองค์เคยเสด็จ และยังได้ตระการตาไปกับถ้ำรังนกที่มีให้เลือกชมถึง 7 เกาะด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นเกาะท้ายถ้ำดำ เกาะรูสิม เกาะหน้าเทวดา เกาะมวย เกาะกันตัง เกาะยายโส และเกาะตาโส ซึ่งหากใครสนใจเข้าชมสามารถติดต่อผ่านกลุ่มท่องเที่ยวชุมชนเพื่อประสานงานอำนวยความสะดวกกับเจ้าหน้าที่ก่อน ถ้าอยากพบความงามตระการตาบนเกาะรังนก ก็นั่งเรือแวะมาชมได้ที่หมู่เกาะสี่ เกาะห้าแห่งนี้

ข้อมูลการเดินทาง
รถยนต์และเรือ : เดินทางไปยังตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง อยู่ห่างจากเกาะหมากไปทางทิศตะวันตกประมาณ 1.6 กิโลเมตร เมื่อถึงท่าเรืออำเภอปากพะยูนก็ใช้บริการเรือแบบเหมาลำ โดยมีระยะเวลาในการเดินเรือประมาณ 1 ชม.
วันเปิดทำการ : ทุกวัน
ที่ตั้ง : ตำบลเกาะหมาก อำเภอปากพะยูน จังหวัดพัทลุง
โทร : 098-121-276, 015-997-778

Categories
Uncategorized

สวนสะละลุงถัน (สวนสละลุงถัน)

สวนสะละลุงถัน (สวนสละลุงถัน)

“เปิดประสบการณ์ลงมือสร้างสรรค์
พร้อมกับลิ้มรสความหวานอร่อยของสละในแดนใต้”

    ในพื้นที่ตำบลหนองธง อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง มีสวนสละชื่อดังอย่างสวนสะละลุงถัน ที่คอยออกผลสละคุณภาพเยี่ยมให้กับชาวพัทลุงและคนในจังหวัดใกล้เคียง อีกทั้งยังเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาอยู่เสมอ แต่เดิมที่นี่เคยเป็นสวนยางและสวนผลไม้ ก่อนที่ผู้ริเริ่มอย่างคุณลุงถัน       ดำเรืองจะเปลี่ยนให้กลายเป็นสวนสละ ที่ปัจจุบันมีเนื้อที่กว่า 20 ไร่ และมีต้นสละมากถึง 1,050 ต้น นอกจาก ที่นี่จะสร้างสรรค์สละรสชาติเยี่ยมแล้วยังมีความตั้งใจที่จะเปิดเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับให้ความรู้และประสบการณ์ใหม่แก่ผู้มาเยือนอีกด้วย ทั้งกิจกรรมเยี่ยมชมบรรยากาศภายในสวนและลงมือผสมพันธุ์เกสรสละด้วยตัวเอง แถมยังให้ผู้มาเยือนได้เขียนชื่อ วันที่ทำการผสมเพื่อรอลิ้มรสสละของตัวเองที่จะออกผลในอีก 9 เดือนข้างหน้า นอกจากนี้ยังได้อิ่มจุใจกับสละภาคใต้รสชาติหวานอร่อยแบบไม่อั้น หรือจะสนุกไปกับการเข้าร่วมแข่งขันการกินสละ และเมื่ออิ่มอร่อยกับผลไม้แล้ว ก็ยังสามารถตบท้ายด้วยอาหารพื้นบ้านที่เจ้าบ้านจัดเตรียมไว้ให้ โดยมีทั้งผักกูดลวกกะทิ แกงไก่ใส่หยวกกล้วย ผัดเครื่องแกงเห็ด และเมนูอื่นๆ เรียกได้ว่ายกความอร่อยมาทั้งครัว

ซึ่งใครที่ไม่อยากพลาดเมนูอร่อยๆแบบนี้ก็ติดต่อมาล่วงหน้าได้ที่คุณวิชัย ดำเรือง ลูกชายของลุงถันที่มาช่วยดูแลสวนสละแห่งนี้ สำหรับคนที่อยากเก็บความอร่อยไปฝากคนที่บ้านก็มีสละให้เลือกซื้อหา นักท่องเที่ยวจึงไม่ควรพลาดมาสัมผัสประสบการณ์ผสมเกสรสละที่หาไม่ได้จากที่อื่น พร้อมทั้งลิ้มรสสละรสหวาน ท่ามกลางบรรยากาศการต้อนรับอย่างเป็นกันเองที่สวนสะละลุงถัน

ค่าเข้าชม : 50 บาท
ข้อมูลการเดินทาง : รถยนต์ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 4122 แยกจากทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 มาที่ตำบลหนองธง อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง
วันเปิดทำการ : ทุกวัน เวลาเปิดทำการ : 08.00 น. – 17.00 น. ที่ตั้ง : เลขที่ 6 หมู่ที่ 5 ตำบลหนองธง อำเภอป่าบอน จังหวัดพัทลุง 
เฟซบุ๊ก : www.facebook.com/suansalalungthan/
โทร : 084-859-3571 , 089-977-9091

Categories
Uncategorized

ชุมชนโบราณทะเลน้อย

ชุมชนโบราณทะเลน้อย

“บ้านหัวลาน
เที่ยวให้ถึงทะเลน้อย”

    ชุมชนบ้านทะเลน้อยเป็นชุมชนเก่าแก่มีมาตั้งแต่สมัยสุโขทัย  ผู้คนอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายชั่วอายุคน จากผืนป่าไม้ถูกนํ้าทะเลหนุนกัดเซาะจนกลายเป็นพื้นที่ชุ่มนํ้าที่บานสะพรั่งไปด้วยดอกบัวสายสีชมพู ล่องเรือชมนกหลากสายพันธ์ุ
    มีท่าเรือเล็ก ๆ ที่อยู่ด้านในสุด เรียกกันว่า บ้านหัวลานซึ่งก็คือทางเข้าชุมชนที่เป็นจุดเริ่มต้นสำหรับการท่องเที่ยวชุมชนโบราณทะเลน้อย คนในชุมชนที่นี่ได้รวมตัวกันเปิดหมู่บ้านเพื่อให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสวิถีชีวิตดั้งเดิมในการประกอบอาชีพ ไม่ว่าจะเป็นด้านการประมง ทำปลาน้ำจืดตากแห้ง ทำปลาดุกร้า การทำผลิตภัณฑ์จักสารจากกระจูดเป็นต้น เป็นการสร้างรายได้และเพิ่มสีสันให้ชุมชน

บ้านเรือนของชาวบ้านที่อยู่อาศัยบริเวณนี้สร้างเป็นเรือนยกสูง ระหว่างบ้านก็มีสะพานไม้หรือสะพานกลางบ้านเชื่อมพาดผ่านสำหรับการสัญจร นับเป็นเอกลักษณ์หนึ่งของชุมชนบ้านทะเลน้อย ผู้มาเที่ยวไม่ควรพลาดที่จะแวะมาแหล่งวิถีชุมชนโบราณทะเลน้อยแห่งนี้ หากได้แวะมาจังหวัดพัทลุง รับรองว่าได้ทั้งสัมผัสวิถีชาวพัทลุงแท้ ๆ แถมยังได้ของฝากติดไม้ติดมือกลับไปแน่นอน

ที่ตั้ง : ม.2 ต.พนางตุง อ.ควนขนุน เทศบาลเมืองพัทลุง 93150
เบอร์โทรติดต่อ : ศูนย์ชุมชน 074-685-240

Categories
Uncategorized

ข้าวสังข์หยด

ข้าวสังข์หยด

“ข้าวแดงหอมกรุ่น
อร่อยนุ่มจนหยุดรับประทานไม่ได้"

    ข้าวสังข์หยดเป็นข้าวเจ้าพันธุ์พื้นเมืองพันธุ์เบา ปลูกกันมานานกว่า 100 ปี ชาวบ้านเมืองพัทลุงนิยมปลูกข้าวและบริโภคข้าวหนักมากกว่าข้าวเบา แต่จะเก็บข้าวเบาไว้ในโอกาสพิเศษเพื่อเป็นของกำนัลแก่ผู้ใหญ่ที่นับถือหรือใช้หุงต้มเป็นอาหารเพื่อเลี้ยงแขกพิเศษในงานบุญ
    ข้าวสังข์หยดถูกประกาศให้เป็น “สินค้าบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์” หรือ “ข้าว GI” (Geographical Indications) โดยกรมการข้าว และกรมวิชาการเกษตร มีชื่อเรียกว่า “ข้าวสังข์หยดเมืองพัทลุง” ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นข้าว GI พันธุ์แรกของประเทศไทย โดยปลูกได้เพียงปีละ 1 ครั้ง มีเยื่อหุ้มเมล็ดสีขาวปนแดงอ่อน ๆ ถึงแดงเข้ม เมื่อหุงสุกเมล็ดข้าวจะนุ่มมาก หอม และหุงขึ้นหม้อ แม้กระทั่งตั้งจนเย็นก็ยังคงนุ่มอยู่ มีความคงตัวของเมล็ดข้าวสูง นอกจากความอร่อยแล้วข้าวสังข์หยดยังมีคุณค่าทางโภชนาการมากมาย มีกากใย โปรตีน ฟอสฟอรัส และเพราะมีกากใยสูงจึงดีต่อระบบขับถ่ายและลำไส้ ยิ่งรับประทานคู่กับแกงตำรับใต้แท้ ๆ ยิ่งเพิ่มความอร่อยให้กับมื้ออาหารอย่างแน่นอน
    ข้าวสังข์หยดสามารถหาซื้อได้ที่ร้านค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์หรือร้านค้าทั่วไปของชาวบ้านจังหวัดพัทลุง

Categories
Uncategorized

กุ้งสามน้ำ

กุ้งสามน้ำ

“กุ้งตัวโต หวานมันสดอร่อย”

    กุ้งสามน้ำเป็นกุ้งมีเนื้อแน่นหวานมันเป็นกุ้งแม่น้ำ เปลือกสีเขียวอมฟ้าหรือม่วง ก้ามยาว ที่มีเพียงแค่หนึ่งเดียวเฉพาะในทะเลสาบสงขลาจังหวัดพัทลุงเท่านั้น เนื่องจากทะเลสาปในบริเวณที่เป็นที่อยู่ของกุ้งมีการหมุนเวียนของน้ำจืด น้ำกร่อย และน้ำเค็ม ทำให้กุ้งสามน้ำนั้นมีรสชาติอร่อยแตกต่างจากกุ้งที่อื่น ปัจจุบันกุ้งสามน้ำจัดเป็นกุ้งเศรษฐกิจที่ส่งเข้าภัตตาคารและร้านอาหารมากมาย
    ความอร่อยของเมนูที่ทำจากกุ้งสามน้ำคือความสด เนื้อกุ้งแน่นหวาน ส่วนหัวจะมีความมันเป็นพิเศษ เหมาะกับการนำไปทำกุ้งเผา และทำอาหารได้อีกหลากหลายเมนู เช่น ต้มยำ มันกุ้งจะทำให้น้ำต้มยำข้นหวานมัน หรือนำไปฉู่ฉี่ ผัดพริกไทยดำ กุ้งอบวุ้นเส้น หลนกุ้ง แกงเหลืองกุ้ง เป็นต้น
    กุ้งสามน้ำสามารถหารับประทานได้ที่ ร้านอาหารเคียงทะเลลำปำ และร้านอาหารทะเลอื่น ๆ ทั่วจังหวัดพัทลุง

Categories
Uncategorized

แป้งสาคูต้น / สาคูสด

แป้งสาคูต้น / สาคูสด

"สาคูแท้ ๆ ที่ไม่ใช่แค่แป้งมันสำปะหลัง"

    สาคูที่เราคุ้นเคยวางขายตามท้องตลาดนั้น จะพบว่าแท้จริงแล้วแป้งที่ใช้นั้นทำจากมันสำปะหลัง ที่ผ่านกระบวนการผลิตในระบบอุตสาหกรรม แต่สำหรับ ‘แป้งสาคูต้น’ เป็นคำเรียกติดปากของคนควนขนุน เพื่อจำแนกแยกแยะให้ชัดเจนว่าเป็นแป้งสาคูที่ทำจากต้นสาคูแท้ ๆ เม็ดแป้งสาคูต้นจะมีสีขาวอมชมพูสวยงาม เก็บไว้ใช้ได้นาน เมื่อต้มจนสุกจะมีสีน้ำตาลอมชมพูจางๆ ขนมที่ทำจากแป้งสาคูต้นจะมีสีน้ำตาลอมแดงเป็นเอกลักษณ์ เนื้อแป้งเหนียวใส ไม่คืนตัว รสสัมผัสนุ่มเหนียว กลิ่นหอมเฉพาะตัวเหมือนดอกไม้แห้ง นิยมใช้ทำ เปียกสาคูน้ำกะทิ สาคูต้นกวน นอกจากนี้ยังสามารถนำมาปรุงเป็นอาหารคาวเลิศรสได้
    ในปัจจุบัน สาคูต้นตำรับหารับประทานได้ยากขึ้น เนื่องจากจะต้องล้มต้นสาคูเพื่อขูดเอาเนื้อมาทำแป้งได้ก็ต่อเมื่อมันมีอายุ 8-10 ปี ซึ่งมีต้นปาล์มสาคูเหลืออยู่ในพื้นที่เพียงไม่กี่สิบไร่ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ในอำเภอควนขนุน จังหวัดพัทลุงนี่เอง เป็นอีกหนึ่งของดีประจำจังหวัดที่ไม่ควรพลาด